วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เมตตา..ตัวเอง

วันนี้คุยกับน้องผู้หญิงคนหนึ่ง หลายครั้งฉันฟังเรื่องเล่าของเธอพบว่า เธอกำลังทุกข์ใจ อึดอัด กับความรู้สึกถูกกดขี่ ไม่ว่าจะเป็นทางความคิด ความสามารถ และการตัดสินใจหลายๆ ด้านของเธอที่เธอต้องตัดสินใจทำเพื่อรักษาความสัมพันธ์ ฉันแลกเปลี่ยนว่าฉันชื่นชมเธอ ว่าเธอเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่ง และเรา 2 คนเป็นคนประเภทเดียวกัน ผู้ให้ type 2  แต่ก่อนฉันก็มักไม่ค่อยทน และเอาคืนกลับกับคนที่ฉันรู้สึกว่ากำลังกดขี หรือดูถูกความคิดฉันอยู่ไม่ทางใดทางหนึ่ง  แต่ว่าอาจเป็นปัจจุบัน การฝึกฝนตัวเอง กับพบว่า ความเก่งที่ว่ามันเป็นเหมือนดาบ 2 คมหากความเก่งนั้น เป็นการเพิ่มความเป็นตัวเป็นตน หรืออัตตาของเรา หากเราใช้มันอย่างนั้นเราอาจจะสูญเสียความสัมพันธ์ที่ไม่อาจหาได้ที่ไหน แต่ความรู้ หรือความคิดของเราที่ว่าแน่ หาได้ทั่วไป นั่นคือตอนนี้ฉันให้ความสำคัญของปัญญา ระดับความคิดความเห็น เป็นรอง กว่าความสัมพันธ์เสียแล้ว

ฉันนึกถึง คำสอนหลวงพ่อกล้วย ทุกคนเป็นอัจฉริยะได้เหมือนกันหมด ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีปัญญา เร่งรีบ เพียรเจริญสติ เพื่อให้เกิด วิปัสสนา เกิดปัญญาที่แท้จริง หากคิดเอา นึกเอา จะกลายเป็นวิปัสสนึกไปสะ

นี่อาจเป็นหนึ่งที่ทุกครั้งที่เราอยู่ในสถานการณ์ที่รู้สึกว่าดูถูก กดขี่ ความสามารถขึ้นมา หากเราเท่าทัน จิตที่เกิด เราอาจจะลด การเอาชนะ คะคานกันทางปัญญาโลกๆ อาจเป็นการลดความขัดแย้ง และสร้างเมตตาที่แท้จริงได้กระมัง

คุยกันถึงการให้
น้องมีนิทานน่ารักๆ มาเล่าต่อเสมอ
เธอว่า มีเศรษฐีคนหนึ่งสมัยพุทธกาล มีเงินมากมายวันตาย ก็ขนก็เก็บไม่หมดใน 7 วัน แต่คงเป็นชาติสุดท้ายแล้วที่จะเป็นเศรษฐีเพราะเศรษฐีคนนี้มีเงิน แต่ไม่ใช้ ไม่เคยแม้แต่ทำบุญ ทำทาน น้องว่า มีพระองค์หนึ่งเทศน์ว่า มันเป็นตามลำดับพี่ ทาน ศีล และภาวนา คนเราต้องให้ทานก่อนพี่ แล้ว ศีล ภาวนาจะตามมา

ฉันกลับมานึกถึงคำสอนของหลวงพ่อกล้วยเป็นลำดับ พักหลังฉันพบว่า ใช่ หลวงพ่อว่า เราควรเรียนรู้จากสถานการณ์เล็กๆ เพื่อให้รู้จักกับสภาวะ เรารู้จักความอยาก ก็ตอนเราอยากอาหารนี่แหละ รู้จักอยากเล็กๆ เห็นความอยากก็อย่าเพิ่งกิน เห็นความเสียดาย อาลัย อาวรณ์มันไหม ตอนไม่ได้กิน จัดการกับสิ่งเล็กๆ นั่นแหละ ทำให้ได้ ทำให้เห็นก่อน พอตัวใหญ่ๆมา เราจะได้เท่าทันมัน รู้จักและดูแลตัวเองให้ได้มันจะล้นมาให้คนอื่นเอง
ฉันว่า ใช่ การให้ก็เช่นกัน หากเขารู้จักการให้เล็กๆ เขาจะให้ใหญ่ๆ เองกระมัง
ฉันไม่ได้แยกเรื่องงานหรือเรื่องครอบครัวเสียแล้ว หากเขาฝึกที่จะให้ใครด้วยเหตุอะไรก็ตาม จะด้วยเหตุแห่งการงาน หรือเหตุใดๆ เขาก็จะรู้จักการให้กับคนในครอบครัวเอง

หรือ...เขายังขาดอะไรที่เขายังไม่ได้ให้ตัวเองหรือเปล่าหนอ...

คุยกันยืดยาวจริงๆ ยาวจนถึงการเป็นกัลยาณมิตร
หากคนเรารู้วิธีการจัดการ กิเลส หากสภาวะจิตเรายังไม่ตั้งมั่น ทำถี่ๆ เข้าไว้ หากไม่ไหว กัลยาณมิตรจะเป็นคนที่ทำให้กระแสของความคิดไม่กลายเป็นคลื่นพายุเร่าร้อน หรือเป็นทางสุดท้ายที่จะเป็นการเปลี่ยนอารมณ์ก่อนระเบิด แต่อย่าลืมการรู้ตัว หรือสร้างเขื่อนขึ้นมาถี่ๆ แทรกเข้าไปตามกระแสที่ร้อนแรงของความคิด กระแสจึงเบาบางจริงๆ ไม่ใช่กดทับ หรือรอเก็บมันไว้จนมันเกิดระเบิดหรือเป็นพายุที่บ้าคลั่งเข้าสักวัน

1 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีจ้ะ

    นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ติดตามอ่านงานใครสักคน บอกตามตรงว่า ชอบมากผู้เขียน เรียบเรียงถ้อยคำ ได้เรียบๆธรรมดาๆ เพราะความเรียบง่ายนั้นเองที่งดงามและเป็นธรรมที่สุด
    ชอบหัวข้อ เรื่องเมตตาตัวเอง เพราะตนเองแต่เดิมเป้นคนเบียดเบียนตนเองมาก และไม่เมตตาตนเองเลย จะติดตามอ่านนะจ๊ะ

    ตอบลบ